ผู้คืนกองทัพ ได้ย้ายคืนสู่ถิ่นเก่าที่รู้จักดีอย่างดีเยี่ยมอีกที ภายหลังที่เคยแจ้งกำเนิดกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้คืนกองทัพ กลุ่มยักษ์ใหญ่ที่ศึกพรีเมียร์ลีกจนกระทั่งมีชื่อมีชื่อเสียงเป็นดอกไม้ไฟแตกไปทั่วทั้งโลกจนกระทั่งตอนนี้เลย และก็ได้กลับมาใส่เสื้อเลขลำดับ 7 ซึ่งเป็นเบอร์เดิมเมื่อตอนยุคที่ค้าหน้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด รอบแรกอีกด้วย

ทำให้ คริสเตียโน่โรนัลโด้ ตัวรุกกลุ่มชาติประเทศโปรตุเกสพร้อมที่จะกอบกู้เชื่อถือของเสื้อเบอร์ 7 ให้กลับมามีมนต์ขลังเสมือนอย่างก่อนหน้าที่เคยเป็นเบอร์เสื้อของอดีตกาลนักฟุตบอลระดับตำนานสมาคมผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเลยนั่นเอง กินกันไม่ลง

ผู้คืนกองทัพ

ย้อนไปกลับไปเมื่อหลายทศวรรษที่แล้วปีศาจแดงได้มอบเสื้อ เบอร์ 7 ให้กับเหล่านักเตะระดับชั้นยอดได้ใส่ลงไปในสนามไปโชว์ฝีเท้าบนสังเวียนลำแข้งมาแล้วทั้งหมดเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 ตำนานตัวรุกระดับนานาชาติที่เคยสวมเสื้อเบอร์นี้มาก่อนแบบจากรุ่นสู่รุ่น ไล่ตั้งแต่ จอร์จ เบสต์ ในตอนทศวรรษ 60-70, ไบรอัน ร็อบสัน ในตอนทศวรรษ 80, เอริค คันโตน่า ในตอนต้นทศวรรษ 90, เดวิด เบ็คแฮม ในช่วงปลายทศวรรษ 90 แล้วก็ได้สืบทอดมาถึงคริสเตียโน่โรนัลโด้ ซึ่งค้าหน้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบแรกระหว่างปี 2003-2009

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาโรนัลโด้ เคยเรียกร้องขอใส่เสื้อเลข 28 เมื่อตอนยุคที่ย้ายร่วมกองทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2003 เพราะว่าเป็นเบอร์เสื้อที่เคยใช้แจ้งกำเนิดในแวดวงลูกหนังโลกกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน กลุ่มสังกัดเดิมแรกในอาชีพนักเตะนั่นเอง

แต่ว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมปีศาจแดงซึ่งเป็นคนดึงชายหนุ่มชาวโปรตุกีสมาจากถิ่นฐานบ้านช่องเมื่อตอนยุคที่พึ่งแก่เพียงแค่ 18 ปีได้ออกคำสั่งให้สวมเสื้อเบอร์ 7 ไปเลย เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเชื่อถือว่าโรนัลโด้ จะสามารถก้าวเท้าขึ้นไปเป็นเลิศในนักเตะที่เยี่ยมที่สุดของโลกได้อย่างแน่แท้ รวมทั้งเป็นดุจที่คาดหวังเอาไว้เสียด้วย

ในตอนระหว่างปี 2003-2009 โรนัลโด้ได้สร้างชื่อจนถึงแปลงเป็นหนึ่งในตำนานนักฟุตบอลของปีศาจแดงไปเลย เนื่องจากว่ามีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ชมรมบรรลุเป้าหมายได้แบบตลอด

โดยยิ่งไปกว่านั้นการครองแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 3 ยุค รวมทั้งก้าวเท้าขึ้นไปผงาดยึดบัลลังก์ “เจ้าสมาพันธ์ยุโรป” ในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2008 ได้ด้วย

รวมทั้งได้ฝากจากเวลาที่ค้าหน้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด รอบแรกด้วยสถิติทำประตูได้มากถึง 118 จากการลงในสนามในทุกรายการไปทั้งผองถึง 292 เกมอย่างยิ่งจริงๆ นอกเหนือจากนี้ยังเคยได้รับเลือกให้เอารางวัล “บัลลงดอร์”

ในฐานะนักเตะเยี่ยมที่สุดของทวีปยุโรปเมื่อปี 2008 รวมทั้งจารึกชื่อเป็นนักฟุตบอลผู้ที่ 4 ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ได้รับรางวัลนี้ต่อจาก 3 ตำนานในแนวรุกเมื่อตอนทศวรรษ 60-70 มันก็คือ เดนิส ลอว์ในปี 1964, บ๊อบบี้ ชาร์ลตันในปี 1966 แล้วก็ จอร์จ เบสต์ในปี 1968

แม้กระนั้นเมื่อไปสู่ปี 2009 โรนัลโด้ได้ตกลงใจโบกไม้โบกมือล่ำลาปีศาจแดงเพื่อย้ายออกไปตามหาความฝันของตน ซึ่งก็คือการย้ายไปค้าหน้าแข้งกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด กลุ่มยักษ์ใหญ่ที่ศึกลาลีกา ประเทศสเปน สักหนึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตด้วยสถิติเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของโลกในสมัยนั้นมากถึง 80 ล้านปอนด์อย่างยิ่งจริงๆ

แล้วก็ได้ทิ้งเสื้อลำดับที่ 7 ให้แปลงเป็นแค่เพียงตำนานอยู่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่เริ่มจะสิ้นมนต์ขลังลงไปเรื่อยถึงแม้ว่าต่อจากนั้นจะมีนักเตะหลายท่านที่ได้ย้ายมาสวมเสื้อเบอร์ 7 กลับไม่มีผู้ใด

ซึ่งสามารถกู้เชื่อถือของเสื้อเลขลำดับนี้ให้กลับมาได้เลย

ผู้คืนกองทัพ ตั้งแต่แมื่อ โรนัลโด้เก็บสิ่งของย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 2009 ต่อไปมีนักเตะถึง 6 รายที่ได้สวมเสื้อเบอร์ 7 ต่อจากตัวรุกกลุ่มชาติประเทศโปรตุเกส แต่ว่าไม่รู้จักว่าเป็นเพราะเหตุว่าเรื่องของแรงกดดันจากการที่สวมเสื้อเบอร์นี้ด้วยหรือไม่

ก็เลยไม่มีผู้ใดสืบต่อความตำนานของเสื้อลำดับที่นี้ได้เลย ไล่ตั้งแต่ ไมเคิล โอเว่น อดีตกาลแผงหน้ากลุ่มชาติอังกฤษที่ได้ย้ายมาค้าลำแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ระหว่างปี 2009–2012 ในระยะหลังหมดสัญญากับ นิวคาสเซิ่ลในปี 2009

แม้ว่าจะเคยยอดเยี่ยมในตำนานนักฟุตบอลของกลุ่มศัตรูตลอดไปอย่าง “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง มาก่อน แต่ว่าโชว์ฟอร์มให้กับปีศาจแดงได้ไม่แจ่มนัก เพราะเหตุว่ามีปัญหาเจ็บก่อกวนอยู่เป็นประจำด้วย ก็เลยฝากผลงานทำประตูไปทั้งผอง 17 จากการลงสู่สนาม 52 เกมในทุกรายการ

ต่อจากนั้น หลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซีย สมัยก่อนนักฟุตบอลกลุ่มชาติเอกวาดอร์ที่เคยค้าลำแข้งกับปีศาจแดงระหว่างปี 2009-2019 ข้างหลังย้ายมาจาก วีแกน ในปี 2009 ได้เคยโยกมาสวมเสื้อเบอร์ 7 ในฤดูกาล 2012-2013

แม้กระนั้นไม่สามารถที่จะแบกรับแรงกดดันจากการใส่ใส่เบอร์ในตำนานได้ และก็ทำให้โชว์ฟอร์มในตอนฤดูกาลดังที่กล่าวถึงแล้วได้ไม่ค่อยดีนัก แม้ว่าจะได้ลงไปในสนามในทุกรายการสูงถึง 40 เกมอย่างยิ่งจริงๆ

แต่ว่าฝากผลงานยิงได้เพียงแค่หนึ่งประตูจากในเวลาที่สวมเสื้อเบอร์ 7 เพียงแค่ฤดูเดียวเพียงแค่นั้น ก็เลยตกลงใจกลับไปสวมลำดับที่ 25 ซึ่งเป็นเบอร์เก่าดังเดิมดีมากยิ่งกว่า

เมื่อไปสู่ปี 2014 อังเคล ดิ มาเรีย มิดฟิลด์กลุ่มชาติอาร์เจนติน่าได้ย้ายมาใส่เสื้อลำดับที่ 7 ของ “ปีศาจแดง” ในพักหลังย้ายมาจาก เรอัล มาดริด เมื่อปี 2014 ด้วยสถิติที่เคยเป็นนักฟุตบอลค่าจ้างแพงที่สุดของเกาะอังกฤษ

ในสมัยนั้นมากถึง 59.7 ล้านปอนด์ แม้กระนั้นปราศจากความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็เลยขอย้ายไปค้าลำแข้งในประเทศฝรั่งเศสกับ “เปแอสเช” กรุงปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2015 จนกระทั่งตอนนี้

โดยฝากผลงานทำประตูได้เพียงแค่ 4 จากการลงสู่สนาม 32 เกมในทุกรายการ ต่อไป เมมฟิส เดปาย แนวรุกกลุ่มชาติฮอลแลนด์ได้ย้ายมาสวมเสื้อเบอร์ 7 ข้างหลังย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในบ้านกำเนิด

แม้กระนั้นปัญหาเรื่องการปรับนิสัยอย่างมาก ก็เลยมิได้รับจังหวะให้ลงเล่นเป็นตัวจริงเสียเท่าไรนัก และก็จะต้องย้ายออกไปในปี 2017 บ้านผลบอลเมื่อคืน

ผู้คืนกองทัพ

โดยฝากผลงานทำประตูได้เพียงแต่ 7 จากการลงสู่สนาม 53 เกมในทุกรายการ

ผู้คืนกองทัพ ส่วนในปี 2018 อเล็กสิส ซานเชซ แผงหน้ากลุ่มชาติประเทศชิลีได้ย้ายมาจาก “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล และก็ได้ใส่เสื้อเบอร์ 7 ของ “ปีศาจแดง” ด้วย แต่ไม่ประสบผลสำเร็จแบบหมดท่า

เพราะว่าโชว์ฝีเท้าไม่คุ้นค่าแรงที่เคยจำต้องจ่ายให้เป็นสถิติแพงที่สุดของเกาะอังกฤษมากถึงอาทิตย์ละ 500,000 ปอนด์อย่างยิ่งจริงๆ ก็เลยถูกปลดปล่อยให้ย้ายไปค้าหน้าแข้งกับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน

ด้วยคำสัญญายืมตัวในปี 2019 แล้วก็ถูกโละทิ้งแบบไม่มีคุณค่าตัวไปเลย โดยฝากผลงานทำประตูได้เพียงแค่ 5 จากการลงไปในสนาม 45 เกมในทุกรายการ จากนั้น เอดินสัน คาวานี่ แผงหน้าจอมเก๋ากลุ่มชาติอุรุกวัยได้ย้ายมาสวมเสื้อเบอร์ 7

ในพักหลังหมดสัญญากับ กรุงปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อปี 2020 รวมทั้งผลงานได้น่าประทับใจเสียด้วย เนื่องจากว่าทำประตูได้มากถึง 17 จากการลงในสนาม 39 เกมในตอนตลอดทั้งฤดู 2020/2021

แม้กระนั้นภายหลังที่ โรนัลโด้ ได้ตกลงใจโบกไม้โบกมือล่ำลา ยูเวนตุส ในตอนก่อนปิดตลาดค้าขายนักฟุตบอลรอบแรกเมื่อตอนสิ้นเดือนเดือนสิงหาคมปี 2021 เพื่อย้ายกลับมาร่วมกองทัพปีศาจแดงเป็นรอบที่ 2 ก็เลยได้สวมเสื้อเบอร์ 7 อีกรอบ

เพราะว่าเป็นหมายเลขประจำตัวไปแล้วนั่นเอง รวมทั้งได้ถูกใช้ประโยชน์เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตนเองในชื่อว่า CR7 อีกด้วย ซึ่งจำเป็นต้องขอบพระคุณ คาวานี่

ที่ยอมเอื้อเฟื้อให้เพื่อหันไปใส่เบอร์ 21 เสมือนในระหว่างที่รับใช้รกรากในระยะหลังที่ ดาเนี่ยล เจมส์ ผู้ครอบครองเสื้อเลข 21 ย้ายไปค้าหน้าแข้งกับ ลีดส์ยูไนเต็ด เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

แม้ว่าจะแก่สูงถึง 36 ปีแล้ว แม้กระนั้นด้วยฝีเท้าที่ยังอยู่ในขั้นสุดยอด ทำให้ โรนัลโด้ พร้อมกลับมากอบกู้เลื่อมใสของเบอร์ 7 ซึ่งเป็นเลขลำดับเสื้อในตำนานของปีศาจแดงให้กลับมามีมนต์ขลังอีกรอบหนึ่งให้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ผลบอลสดภาษาไทย