อาร์เตต้าคุมกลาง ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์นี้ มีเกมบิ๊กแมตช์ที่น่าดึงดูดมากมายๆ
อาร์เตต้าคุมกลาง ณ สังเวียนหน้าแข้ง แอนฟิลด์ ของ หงส์แดง ที่พวกเขาจะเปิดบ้านดวลกับ อาร์เซน่อล กลุ่มที่ฟอร์มกำลังเร่าร้อน แล้วก็คว้าแชมป์เกมลีกมา 3 นัดหมายติด
ซึ่งวันนั้น “เดอะ กันเนอร์ส” ที่คุมกองทัพโดย อาร์แซน เวนเกอร์ คว้าชัยด้วยสกอร์ 2-0 ว่าแล้วพวกเราไประลึกเรื่องในอดีต ส่องมองไลน์อัพ 11 ผู้เล่นตัวจริงของ อาร์เซน่อล ในเกมวันนั้นว่า มีคนใดกันแน่บ้าง
ซึ่งต้องการจะกล่าวว่า หนึ่งในนั้นมี มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมฟุตบอลคนตอนนี้ของ “ไอ้ปืนใหญ่” รวมอยู่ด้วย แถมมีอีกหนึ่งรายที่ตอนนี้เล่นให้กับ หงส์แดง เกมบิ๊กแมตช์ที่ แอนฟิลด์ ในวันนั้น เวนเกอร์ ใช้ระบบการเล่น 4-2-3-1
โดยที่ วีโต้ มานโนเน่ นายทวารชาวอิตาเลียน ซึ่งเดี๋ยวนี้อยู่กับ อาแอส โมนาโก สตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งผู้เฝ้าประตู ส่วนแผงแบ็กโฟร์ใช้ โธมัส แฟร์มาเล่น (ปัจจุบันนี้อยู่ วิสเซล โกเบ) กับ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ (เดี๋ยวนี้รีไทร์) เป็นคู่กองหลังตัวกลาง
ในเวลาที่ คาร์ล เจนรับประทานสัน (เดี๋ยวนี้อยู่ น็อตติ้่งแฮม ฟอเรสต์) รวมทั้ง คีแรน กิ๊บบ์ส (เดี๋ยวนี้อยู่ อินเตอร์ ไมอามี่) เล่นเป็นฟูลแบ็กฝั่งขวาแล้วก็ซ้าย ซึ่งทั้งผองต่างโชว์ฟอร์มได้อย่างแกร่ง ช่วยกลุ่มเก็บคลีนชีตได้
ทำเอาตัวเด่นๆของฝั่ง “ลิเวอร์พูล” ภายใต้การนำกองทัพของผู้จัดการทีมฟุตบอล เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในวันนั้นอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หลุยส์ ซัวเรซ และก็ ราฮีม สเตอร์ลิง เล่นไม่ออกกันอย่างยิ่งจริง ๆ ไม่แฮปปี้
ส่วนกองกลางคู่กึ่งกลางนั้น อาร์เตต้า นายใหญ่ อาร์เซน่อล คนปัจจุบันนี้ เล่นร่วมกับ อาบู ดิยาบี้ (ปัจจุบันนี้รีไทร์) โดยที่มี ซานติ กาซอร์ล่า (เดี๋ยวนี้อยู่ อัล ซาดด์), ลูคัส โพดอลสกี้ (ตอนนี้อยู่ กอร์นิค ซ๊าบเซ) รวมทั้ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ในขณะนี้ค้าลำแข้งกับ “ลิเวอร์พูล” เป็นสามตัวรุก
ซึ่ง กาซอร์ล่า เล่นได้เด่นมากมายๆเนื่องจากว่าทั้งยังยิงและก็จ่าย โดยเป็นคนแอสซิสต์ให้ “โพลดี้” กระแทกประตู 1-0 นาทีที่ 31 ก่อนยิงเองในลูก 2-0 นาทีที่ 63 สำหรับแนวรุกตัวเป้าในวันนั้นเป็น โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ปัจจุบันนี้เล่นอยู่กับ เอซี มิลาน
แม้วันนั้นไม่มีสกอร์ แม้กระนั้นหัวหอกเฟร้นช์แมนก็ปั่นป่วนแนวรับ หงส์แดง ได้ไม่น้อย แถมได้อยู่ในสนามจนถึงจบเกมด้วย จากวันนั้น ไม่มีนักฟุตบอลคนใดกันแน่คงเหลืออยู่ในกลุ่ม อาร์เซน่อล ชุดปัจจุบันนี้
นอกจากเพียงแค่ในรายของ อาร์เตต้า ที่เปลี่ยนแปลงสถานะจากผู้เล่นมาเป็นผู้จัดการทีม “ไอ้ปืนใหญ่” ซึ่งก็น่าดึงดูดอย่างยิ่งว่า ผู้ฝึกสอนชาวสแปนิชวัย 39 ปี จะสามารถพาทีมคว้าชัยเหนือ หงส์แดง ที่ แอนฟิลด์ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีหรือเปล่า คืนวันเสาร์นี้ได้ทราบคำตอบกัน
อาร์เตต้าคุมกลาง สื่อดังเผยอาการโอบาเมยองฟิตทันดวลหงส์แดงหรือเปล่า?
เดลี่ เมล สื่อดังประจำอังกฤษ บอกเอง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง จะฟิตทันช่วย อาร์เซน่อล ในเกมกับ หงส์แดง ภายหลังที่ผ่านมาเจ้าตัวมีลักษณะอาการเดี้ยงตรงน่องจากตอนไปเล่นให้ กาบอง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง แผงหน้าคนที่ใครๆก็รู้จักของ อาร์เซน่อล จะฟิตทันช่วยกลุ่มในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดหมายที่สังกัดเดิมของเขามีคิวไปเยือน หงส์แดง วันเสาร์ที่ 20 พ.ย.นี้
ภายหลังที่ปัจจุบันสามารถลงฝึกซ้อมกับกลุ่มชุดใหญ่ได้ ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อชั้นหนึ่งของเมืองผู้ดี ก่อนหน้าที่ผ่านมา โอบาเมยอง ได้รับบาดเจ็บรอบๆน่องจากเกม บอลโลก 2022 รอบเลือกเฟ้น โซนแอฟริกา นัดหมายที่ถิ่นกำเนิดของเขาชนะ ลิเบีย 1-0 ช่วงวันที่ 12 เดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ผลบอลสดภาษาไทย
ซึ่งในเวลาถัดมาสมาพันธ์มบอลกาบองก็บอกเองว่าลำแข้งวัย 32 ปี จะมิได้อยู่ช่วยกลุ่มในเกมกับ อียิปต์ ช่วงวันที่ 16 เดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้านี้ แล้วก็จะเดินทางกลับไปรายงานตัวกับสังกัดเดิมเร็วกว่าที่ระบุเอาไว้ จนกระทั่งทำให้แฟนบอล “ไอ้ปืนใหญ่” เล็กน้อยกลัวว่าเขาบางครั้งก็อาจจะมิได้ลงช่วยกลุ่มในเกมที่ แอนฟิลด์
แต่ ปัจจุบัน เดลี่ เมล กล่าวมาว่า โอบาเมยอง ได้ฝึกซ้อมกับกลุ่มชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล แล้ว และไม่มีปัญหาอะไรสำหรับในการลงล่าตาข่ายในวันเสาร์นี้ โดยมีการกำหนดเพราะว่าการบาดเจ็บในเกมกับ ลิเบีย ของ โอบาเมยอง มิได้ร้ายแรงราวกับที่ผู้คนจำนวนมากคิดกัน รวมทั้งที่เขาจำเป็นต้องเดินทางกลับ อังกฤษ เร็วกว่าระบุนั้นมันก็เป็นไปตามที่ กาบอง คิดแผนล่วงหน้าเอาไว้แล้วเท่านั้น
อาร์เตต้ารับอาร์เซน่อลแพ้หงส์แดงหมดรูป
มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่กลุ่ม อาร์เซน่อล พูดยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า เดอะ กันเนอร์ส ไม่มีวันประมือกับ หงส์แดง ได้เลยในเกมที่บุกมาแพ้ไปแบบหายห่วง 4-0 ที่ แอนฟิลด์เมื่อวันเสาร์ที่ 20 เดือนพฤศจิกายน
กลุ่มจากลอนดอนอยู่ในตอนส่งผลงานดีโดยตลอด และก็ชนะมาแล้วสี่นัดหมายข้างหลังในทุกรายการ แต่ว่าท้ายที่สุดก็มาถูก ลิเวอร์พูล ยำใหญ่ซึ่งที่ปรึกษาสแปนิชสารภาพว่าเจ้าของบ้านเข้มแข็งกว่าจำพวกที่เปรียบเทียบกันมิได้
พวกเรากลายเป็นรอง 1-0 ข้างหลังจบครึ่งแรก พวกเราเล่นกันแบบทรหดอดทนได้ดี แม้กระนั้นในที่สุดพวกเราก็เตลิดเปิดเปิง พวกเราถูกกระหน่ำแบบหมดสภาพ ดังนี้พวกเราก็เลยแพ้อย่างที่มองเห็น
มันน่าโกรธที่พวกเราจำต้องกลายเป็นข้างตามหลัง พวกเราทราบว่าพวกเขาสามารถลงอาญาคุณได้ พวกเขาสามารถบีบคั้นได้ พวกเขาเป็นเยี่ยมในกลุ่มที่เหมาะสมที่สุด แต่ว่าการก่อความบกพร่องก็เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของเกมบอล
พวกเราบ่งบอกถึงตรงเวลา 45 นาทีว่าพวกเราสามารถประมือกับพวกเขาได้ แม้กระนั้นหลังจากนั้นพวกเราก็ถูกกระหน่ำยับ พวกเราทำผิดพลาดกันหลายหน แล้วก็มันเป็นบทเรียนที่พวกเราได้รับในวันนี้
